ข้อสังเกตเกี่ยวกับการแสดงเจตนาทางออนไลน์
![]() |
เวลาและสถานที่ ที่สัญญาพาณิขย์อิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้น |
1 การเชื้อชวนให้ทำคำเสนอทางออนไลน์
ประเทศไทยนั้นยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องของการเชื้อชวนให้ทำคำเสนอ ตัวอย่างของการเชื้อเชิญให้ทำคำเสนออาจอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น การแสดงสินค้าเพื่อขาย การโฆษณา หรือบริการ การประกาศประกวดราคาอย่างไรก็ตามในโลกปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะการใช้ระบบอินเทอร์เน็ตซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สามารถติดต่อสื่อสารกันทางอิเล็กทรอนิกส์กันทั่วไปในชีวิตประจำวัน จึงมีการโฆษณาขายสินค้าและบริการอยู่เป็นจำนวนมากต่อบุคคลในหมู่กว้างและสามารถที่จะเข้าถึงได้ง่าย เช่นบนเว็บไซต์ต่าง ๆเพียงแค่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตผ่านเครื่องมือสื่อสารไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน หรือคอมพิวเตอร์ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ ที่สำคัญเทคโนโลยีปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างมากทำให้การเกิดสัญญาต่างๆ นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายและแทบจะในทันทีทันใด
ดังนั้นคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศจึงมีความพยายามที่จะให้การติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์มีความเท่าเทียมกันตามหลักความเป็นกลางทาง
เทคโนโลยี(Technological Neutrality) ปัจจุบันมีการเสนอขายสินค้าหรือบริการผ่านโปรแกรมประยุกต์ที่สามารถโต้ตอบได้ทันที(Interactive Application)ซึ่งใช้ในการเสนอขายสินค้าหรือบริการที่ให้คู่สัญญาอีกฝ่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลจนสามารถที่จะทำสัญญาได้อย่างอัตโนมัติ ดังนั้นอนุสัญญาฯจึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องการทำคำเสนอโดยโปรแกรมประยุกต์ที่สามารถโต้ตอบได้อัตโนมัติด้วย
2.การใช้ระบบอัตโนมัติในการทำสัญญา
ปัจจุบันมีความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสารสนเทศ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสัญญานั้นอาจเกิดขึ้นโดยการใช้ระบบอัตโนมัติ หรือที่บางประเทศเรียกว่า ตัวแทนอิเล็กทรอนิกส์(Electronic agent) โดยส่วนมากจะเกิดในรูปแบบของการซื้อขายผ่านระบบอัตโนมัติบนโลกอินเทอร์เน็ตที่มีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นตามเว็บไซต์ต่างๆ เป็นจำานวนมาก เช่นการขายสินค้าผ่าน www.paysbuy.com, www.naiin.com, http://www.central.co.th/th/index.php เป็นต้นและส่วนใหญ่จะมีการซื้อขายกันผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้ เช่นสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นช่องทางที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วกว่าช่องทางแบบดั้งเดิม กรณีสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นเกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบอัตโนมัติที่ได้กำหนดข้อสัญญาทั่วไปไว้ล่วงหน้าแล้วเพียงแต่ให้บุคคลธรรมดานั้นแสดงเจตนาที่จะเข้าทำสัญญาด้วยโดยการกดปุ่มบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ และเมื่อมีการตกลงโดยวิธีการดังกล่าวแล้ว ก็จะก่อให้เกิดสัญญาขึ้นระหว่างระบบอัตโนมัติกับบุคคลธรรมดาหรือในบางกรณีก็อาจเกิดสัญญาขึ้นจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลของระบบอัตโนมัติด้วยกันเอง อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการใช้การสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาระหว่างประเทศจึงได้บัญญัติกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการใช้ระบบอัตโนมัติในการทำสัญญาขึ้นในมาตรา 12 เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ระบบอัตโนมัติในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตัวอย่างของการใช้ระบบอัตโนมัติในการทำสัญญา มีสองประเภท ประเภทแรก เป็นกรณีที่บุคคลธรรมดาทั่วไปเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บไซต์ซึ่งกรณีนี้จะเป็นการเข้าทำสัญญาระหว่างบุคคลธรรมดากับระบบข้อมูลอัตโนมัติ
ประเภทที่สอง กรณีที่พบทั่วไปในการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยจะเป็นกรณีที่คอมพิวเตอร์ของผู้ซื้อเมื่อพบว่าต้องการใช้สินค้าเพิ่มเติมจะส่งคำสั่งซื้อสินค้าไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ขาย จากนั้นคอมพิวเตอร์ของผู้ขายก็จะตรวจสอบสถานะสินค้าที่ต้องการจะซื้อ และส่งผลยอมรับการสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ซื้อพร้อมทั้งส่งของให้ ในกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเป็นการเข้าทำสัญญากันระหว่างระบบอิเล็กทรอนิกส์สองระบบโดยไม่มีการกระทำของบุคคลธรรมดาเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย
3.การแก้ไขข้อผิดพลาดในการแสดงเจตนาทางออนไลน์
การซื้อขายผ่านระบบข้อมูลอัตโนมัตินั้นเวลาที่บุคคลเกิดป้อนข้อมูลผิดพลาดลงไปในระบบข้อมูลอัตโนมัติจะมีโอกาสน้อยมากที่จะตรวจสอบหรือแก้ไขข้อมูลข้อผิดพลาดให้ถูกต้องได้ หรือในบางสถานการณ์ก็ไม่อาจจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้เลย จึงเกิดเป็นปัญหาที่สำคัญมากเพราะมีความเสี่ยงสูงในการเกิดข้อผิดพลาดเมื่อกระทำการผ่านระบบข้อมูลอัตโนมัติ ดังนั้นมาตรา14 ของอนุสัญญาฯจึงได้สร้างหลักเกณฑ์ขึ้นมาใหม่เพื่อขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นตัวอย่างของวิธีการในการแก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาดที่เห็นกันทั่วไป คือ ระบบข้อมูลอัตโนมัตินั้นได้กำหนดหน้าจอการยืนยัน (Confirmation Screen)ให้บุคคลที่ตัดสินใจจะซื้อสินค้าหรือบริการซึ่งการมีหน้าจอยืนยันนี้จะทำให้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวมีความตั้งใจที่จะยืนยันและยินยอมเข้าทำสัญญาผ่านระบบข้อมูลอัตโนมัติ และเป็นการให้โอกาสบุคคลดังกล่าวที่จะป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ หรืออีกวิธีหนึ่งที่ให้โอกาสในการแก้ไขข้อผิดพลาดจากการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ คือเมื่อระบบข้อมูลอัตโนมัติได้รับการสื่อสารจากบุคคลที่สนใจจะซื้อสินค้าหรือบริการก็ส่งการยืนยันกลับไปยังบุคคลดังกล่าวและในคราวนี้บุคคลนั้นจะต้องตอบรับการยืนยันนี้ก่อนจะเสร็จสิ้นการซื้อขาย นอกจากนี้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คู่สัญญาที่เป็นฝ่ายใช้ระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ช่วยปกป้องไม่ให้คู่สัญญาอีกฝ่ายของตนส่งการสื่อสารที่ผิดพลาดมา หรือช่วยให้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดที่ได้ส่งมา มาตรา 14จะช่วยกระจายความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดนั้นให้ในลักษณะที่มีความยุติธรรมและสมเหตุสมผล หากคู่สัญญาฝ่ายที่ใช้ระบบข้อมูลอัตโนมัติได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในมาตราดังกล่าวนี้ครบถ้วน จึงกล่าวได้ว่าผลทางกฎหมายตามมาตรา 14นั้นคือ การเยียวยาความผิดพลาดของบุคคลธรรมดาที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆระหว่างการป้อนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากในสถานการณ์ทั่วไปนั้นความผิดพลาดดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดภาระผูกพันกลายเป็นสัญญาขึ้นมาและจะต้องมีผลกระทบทางกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น